ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ วางแผนธุรกิจ Scale Up ธุรกิจโต 100 ล้าน

Inner Circle Trader (ICT) Concept คือ อะไร มีอะไรบ้าง

Inner Circle Trader (ICT) Concept คือ อะไร มีอะไรบ้าง

Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร เทรด Forex อย่างไร

Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร? เปิดโลกการเทรดแบบมืออาชีพที่จะเปลี่ยนชีวิตคุณ

หากคุณเป็นนักเทรด Forex หรือกำลังสนใจที่จะเข้าสู่โลกการเทรด เชื่อว่าคุณคงเคยได้ยินชื่อ “Inner Circle Trader” หรือ “ICT” กันมาแล้ว แต่ Inner Circle Trader (ICT) คืออะไรกันแน่? วันนี้เราจะมาไขความลับของกลยุทธ์การเทรดที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโลก Forex และทำไมเทรดเดอร์ระดับโลกถึงยกย่องว่าเป็นเทคนิคที่ดีที่สุด

Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร? รู้จักกับตำนานเทรดเดอร์ระดับโลก

Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร? คำถามนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่หลายคนอยากรู้ Inner Circle Trader หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า ICT คือ Michael J. Huddleston เทรดเดอร์ชื่อดังที่กลายเป็นตำนานในแวดวงการเทรด Forex ด้วยการแชร์ความรู้และเทคนิคการเทรดที่ล้ำลึกผ่านวิดีโอออนไลน์และฟอรั่มต่างๆ

สิ่งที่ทำให้ ICT โดดเด่นคือการมองตลาด Forex ในมุมมองที่แตกต่างจากเทรดเดอร์ทั่วไป เขาไม่ได้มองตลาดเป็นเพียงแค่กราฟราคาที่เคลื่อนไหวขึ้นลง แต่มองเป็นสนามรบที่เต็มไปด้วยกลยุทธ์ของกลุ่มทุนใหญ่ที่พยายามเก็งกำไรจากเทรดเดอร์รายย่อย

Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร?

ทำไม ICT ถึงได้รับความนิยมมากขนาดนี้?

เหตุผลที่ทำให้คำถาม “Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร” ถูกค้นหามากนั้น เพราะกลยุทธ์ของเขาไม่ใช่การเทรดแบบดั้งเดิมที่เน้นแค่ดู Indicator หรือ Pattern ธรรมดา แต่เป็นการเข้าใจโครงสร้างของตลาดในระดับลึก เหมือนกับการเป็นสายลับที่แอบดูแผนการของศัตรูก่อนที่จะเปิดสงคราม

หัวใจหลักของแนวคิด ICT คืออะไร?

เมื่อเราเข้าใจแล้วว่า Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร ขั้นต่อไปคือการทำความเข้าใจหัวใจหลักของแนวคิดเขา ซึ่งประกอบด้วย 3 เสาหลักสำคัญ

1. การวิเคราะห์โครงสร้างตลาด (Market Structure) – อ่านใจตลาดให้ออก

การวิเคราะห์โครงสร้างตลาดคือหัวใจสำคัญที่ทำให้เราเข้าใจว่า Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร ICT เน้นการมองหาโครงสร้างของตลาดผ่านการระบุ:

Swing High และ Swing Low: เปรียบเทียบกับการดูยอดเขาและหุบเขา ถ้าเราเห็นยอดเขา (Swing High) ใหม่สูงกว่าเดิม แสดงว่าตลาดยังมีแนวโน้มขาขึ้น แต่ถ้ายอดเขาใหม่ต่ำกว่าเดิม อาจเป็นสัญญาณว่าแรงขึ้นกำลังหมดลง

ตัวอย่างการใช้งาน: สมมติคู่เงิน EUR/USD สร้าง Swing High ที่ 1.1000 และต่อมาสร้าง Swing High ใหม่ที่ 1.0980 (ต่ำกว่าเดิม) นี่คือสัญญาณที่บอกว่าแนวโน้มขาขึ้นอาจกำลังอ่อนแอลง

2. การวิเคราะห์ปริมาณออร์เดอร์ (Order Flow) – ติดตามเงินใหญ่

เมื่อเราเข้าใจ Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร แล้ว เราจะรู้ว่าการดูปริมาณออร์เดอร์เป็นเหมือนการดูรอยเท้าของช้าง ออร์เดอร์ขนาดใหญ่จากธนาคารและสถาบันการเงินจะทิ้งร่องรอยไว้ในตลาด

วิธีการสังเกต: ดูจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ผิดปกติ เช่น ราคาพุ่งขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็วโดยไม่มีข่าวสำคัญ นี่อาจเป็นสัญญาณที่บอกว่ามีกลุ่มทุนใหญ่เข้ามาเทรด

ตัวอย่างในชีวิตจริง: เหมือนกับการไปเดินห้างสรรพสินค้า ถ้าเราเห็นคนเดินไปทางเดียวกันเป็นจำนวนมาก เราก็รู้ว่าทางนั้นคงมีร้านค้าหรือโปรโมชั่นดีๆ

3. การระบุรูปแบบการเก็งกำไรของกลุ่มทุนใหญ่ (Market Manipulation)

นี่คือส่วนที่ทำให้เราเข้าใจลึกซึ้งว่า Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร ICT เปิดเผยเทคนิคที่กลุ่มทุนใหญ่ใช้หลอกเทรดเดอร์รายย่อย:

Stop Hunting: การทะลวง Stop Loss ของเทรดเดอร์รายย่อย เหมือนกับการที่นักล่าขับไล่สัตว์ออกจากที่ซ่อน False Breakout: การหลอกให้คิดว่าราคาจะเบรกเอาต์ แต่กลับพุ่งไปทางตรงข้าม เหมือนกับการแกล้งวิ่งไปทางหนึ่งแล้วกลับวิ่งไปอีกทางหนึ่ง

กลยุทธ์การเทรดตามแนวคิด ICT – เทคนิคที่เปลี่ยนชีวิตเทรดเดอร์

การเข้าใจ Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร จะไม่สมบูรณ์ถ้าเราไม่รู้กลยุทธ์การเทรดของเขา มาดูเทคนิคหลักๆ กัน:

1. การหาระดับราคาสมดุล (Fair Value Gap) – จุดสุดคุ้มของการเทรด

Fair Value Gap เปรียบเทียบได้กับการซื้อของในห้างลดราคา เมื่อราคาตลาดต่ำกว่าหรือสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริงมาก มันจะมีแรงดึงกลับสู่จุดสมดุล

ตัวอย่างการใช้งาน: ถ้าคู่เงิน GBP/USD มีมูลค่าที่แท้จริงอยู่ที่ 1.2500 แต่ราคาตลาดอยู่ที่ 1.2300 นี่คือ Fair Value Gap ที่เราสามารถเข้า Buy รอราคาปรับตัวขึ้น

2. การวิเคราะห์ช่วงราคา Asian Session Range – ประตูสู่ความสำเร็จ

Asian Session (19.00-04.00 GMT) เปรียบเทียบได้กับการดูพยากรณ์อากาศก่อนออกจากบ้าน ช่วงนี้จะบอกเราถึงแนวโน้มของวันนั้น

วิธีการใช้:

  • สังเกตช่วงราคาที่เทรดในเซสชั่นเอเชีย
  • ถ้าราคาเบรกเอาต์ไปด้านบนของช่วงนี้ในเซสชั่นยุโรปหรืออเมริกา แนวโน้มมักจะขาขึ้น
  • ถ้าเบรกเอาต์ลง แนวโน้มมักจะขาลง

3. การหา Order Block ที่สำคัญ – โซนพิเศษของการเทรด

Order Block เปรียบเทียบได้กับจุดพักรถบนทางหลวง เป็นที่ที่ออร์เดอร์จำนวนมากมารวมตัวกัน และมักเป็นจุดที่ราคาจะเด้งกลับ

วิธีการระบุ Order Block:

  • หาแท่งเทียนที่มีขนาดใหญ่และมีปริมาณการซื้อขายสูง
  • บริเวณนี้มักจะกลายเป็นแนวรับหรือแนวต้านที่แข็งแกร่ง
  • เมื่อราคากลับมาทดสอบโซนนี้ มีโอกาสสูงที่จะเด้งกลับ

4. การใช้ Pivot Point – เข็มทิศของการเทรด

Pivot Point เปรียบเทียบได้กับป้ายบอกทาง ช่วยให้เรารู้ว่าราคาจะไปทางไหน

การคำนวณ Pivot Point:

  • Pivot = (High + Low + Close)/3
  • Resistance 1 = (2 × Pivot) – Low
  • Support 1 = (2 × Pivot) – High

5. การหา Kill Zone – ช่วงเวลาทองของการเทรด

Kill Zone เปรียบเทียบได้กับชั่วโมงเร่งด่วนบนถนน เป็นช่วงที่ตลาดมีความเคลื่อนไหวมากที่สุด

Kill Zone หลักๆ:

  • London Kill Zone: 07:00-10:00 GMT
  • New York Kill Zone: 13:30-16:00 GMT
  • Asian Kill Zone: 20:00-24:00 GMT

คำศัพท์สำคัญของ ICT Strategy ที่ต้องรู้

การเข้าใจ Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร จำเป็นต้องรู้จักคำศัพท์เฉพาะเหล่านี้:

Premium / Discount Zone – โซนแห่งโอกาส

Premium Zone (0.5-1.0): โซนที่ราคาแพงเกินไป เหมาะสำหรับการ Sell Discount Zone (0-0.5): โซนที่ราคาถูกเกินไป เหมาะสำหรับการ Buy

ตัวอย่างการใช้: ถ้าราคา EUR/USD อยู่ใน Discount Zone ที่ 0.3 (30%) เราควรพิจารณาการ Buy เพราะราคาถือว่าถูก

Fair Value Gap (FVG) – ช่องว่างแห่งโอกาส

FVG เปรียบเทียบได้กับรูในกำแพง ราคาจะพยายามกลับมาเติมช่องว่างนี้

การระบุ FVG:

  • เกิดขึ้นเมื่อมีแท่งเทียนที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
  • ทิ้งช่องว่างระหว่างราคาสูงของแท่งก่อนหน้ากับราคาต่ำของแท่งถัดไป
  • ราคามักจะกลับมาเติมช่องว่างนี้

Liquidity Hunt / Stop Hunt – การล่าสัตว์ในตลาด

เปรียบเทียบกับการที่สิงโตไล่ฝูงละมั่งออกจากที่ซ่อน เพื่อจับเหยื่อที่อ่อนแอ

สัญญาณของ Stop Hunt:

  • ราคาพุ่งขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็วแล้วกลับทันที
  • เกิดขึ้นบริเวณแนวรับแนวต้านที่สำคัญ
  • ปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหัน

Liquidity Void – ผืนแผ่นดินร้าง

เปรียบเทียบกับทะเลทรายที่ไม่มีน้า Liquidity Void คือบริเวณที่ไม่มีใครอยากเทรด

ลักษณะของ Liquidity Void:

  • ราคาเคลื่อนไหวผ่านไปอย่างรวดเร็วโดยไม่หยุด
  • ปริมาณการซื้อขายต่ำมาก
  • มักเกิดขึ้นหลังข่าวสำคัญ

ข้อควรระวังในการประยุกต์ใช้แนวคิด ICT

แม้ว่าเราจะเข้าใจแล้วว่า Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร แต่การนำไปใช้จริงมีข้อควรระวัง:

1. ความซับซ้อนของระบบ

ICT ไม่ใช่กลยุทธ์แบบง่ายๆ ที่ดู Indicator แล้วเทรดได้เลย แต่เป็นศิลปะการอ่านตลาดที่ต้องใช้เวลาฝึกฝน เหมือนกับการเรียนเปียโน ไม่สามารถเล่นได้ดีในวันเดียว

2. การจัดการอารมณ์

การเข้าใจ Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร ยังไม่พอ เราต้องมีวินัยในการเทรด เมื่อเห็น Setup ที่ดีแล้ว อย่าโลภเอาเยอะเกินไป

3. การบริหารความเสี่ยง

ICT เน้นการเทรดตาม Market Structure แต่ไม่ได้หมายความว่าจะชนะทุกครั้ง การใส่ Stop Loss และกำหนด Risk-Reward Ratio ที่เหมาสมยังคงสำคัญ

4. ไม่เหมาะกับทุกสถานการณ์ตลาด

ในบางช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูงหรือมีข่าวสำคัญ กลยุทธ์ ICT อาจไม่ทำงานได้ดี เหมือนกับแผนที่ GPS ที่อาจใช้ไม่ได้ในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณ

เทคนิคการฝึกฝน ICT สำหรับมือใหม่

สำหรับผู้ที่เพิ่งเข้าใจ Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร และอยากเริ่มฝึกฝน นี่คือขั้นตอนที่แนะนำ:

ขั้นตอนที่ 1: เริ่มจาก Demo Account

อย่าเพิ่งใช้เงินจริง เริ่มจาก Demo Account ก่อน เหมือนกับการฝึกขับรถในสนามฝึกก่อนลงถนนจริง

ขั้นตอนที่ 2: เรียนรู้ทีละเทคนิค

อย่าพยายามเรียนรู้ทุกอย่างพร้อมกัน เริ่มจาก Market Structure ก่อน จากนั้นค่อยเรียน Order Flow และ Fair Value Gap

ขั้นตอนที่ 3: บันทึกการเทรดทุกครั้ง

เขียน Trading Journal เพื่อติดตามผลการเทรดและเรียนรู้จากความผิดพลาด เหมือนกับการเขียนไดอารี่เพื่อย้อนกลับมาดู

ขั้นตอนที่ 4: หาชุมชนเทรดเดอร์

เข้าร่วมกลุ่มเทรดเดอร์ที่ใช้ ICT Strategy เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การเรียนรู้แบบกลุ่มจะช่วยให้เราเข้าใจเร็วขึ้น

ความแตกต่างระหว่าง ICT กับกลยุทธ์การเทรดแบบอื่น

เมื่อเราเข้าใจแล้วว่า Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร เราจะเห็นความแตกต่างที่ชัดเจน:

ICT vs Technical Analysis แบบดั้งเดิม

Technical Analysis แบบเก่า: มองกราฟเป็นแค่ตัวเลขและรูปแบบ ICT: มองกราฟเป็นสนามรบที่มีกลยุทธ์ซับซ้อน

ICT vs Fundamental Analysis

Fundamental Analysis: เน้นข่าวสารและข้อมูลเศรษฐกิจ ICT: เน้นพฤติกรรมของกลุ่มทุนใหญ่ในตลาด

อนาคตของ ICT Strategy ในตลาด Forex

แนวคิด Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะ:

1. ความแม่นยำที่สูงขึ้น

เมื่อเทรดเดอร์เข้าใจพฤติกรรมของตลาดลึกขึ้น การคาดการณ์ก็แม่นยำขึ้น

2. การปรับตัวกับเทคโนโลยี

ICT Strategy สามารถนำมาใช้กับ Trading Bot และ AI ได้ เพราะมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน

3. ชุมชนที่เติบโต

มีเทรดเดอร์จำนวนมากขึ้นที่เรียนรู้และแบ่งปันประสบการณ์ ICT

เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการเทรด ICT

การเข้าใจ Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร จำเป็นต้องมีเครื่องมือที่เหมาะสม:

1. แพลตฟอร์มการเทรด

  • TradingView: สำหรับการวิเคราะห์กราฟ
  • MetaTrader 4/5: สำหรับการเทรดจริง

2. เครื่องมือวิเคราะห์

  • Fibonacci Retracement: สำหรับหา Premium/Discount Zone
  • Volume Profile: สำหรับดู Order Flow
  • Market Profile: สำหรับเข้าใจโครงสร้างตลาด

สรุป: Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร และทำไมคุณควรเรียนรู้

Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร? หลังจากที่เราได้เจาะลึกไปในทุกมิติแล้ว เราสามารถสรุปได้ว่า ICT คือมากกว่าแค่กลยุทธ์การเทรด แต่เป็นศิลปะการอ่านใจตลาดที่ต้องอาศัยความเข้าใจลึกซึ้ง ความอดทน และวินัยในการฝึกฝน

สิ่งที่ทำให้ ICT พิเศษคือการมองตลาดในมุมมองของกลุ่มทุนใหญ่ แทนที่จะเป็นเหยื่อของการ Market Manipulation เราสามารถกลายเป็นผู้ที่เข้าใจเกมและเล่นไปในทิศทางเดียวกับผู้เล่นใหญ่

การเรียนรู้ ICT ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ผลตอบแทนที่ได้คุ้มค่ากับเวลาและความพยายามที่ลงทุนไป หากคุณกำลังมองหากลยุทธ์การเทรดที่จะยกระดับการเทรดของคุณไปสู่ระดับมืออาชีพ ICT Strategy คือคำตอบที่คุณกำลังมองหา

อย่าลืมติดตามช่อง YouTube “ICT Trader” เพื่อเรียนรู้เทคนิคและกลยุทธ์การเทรดแบบ ICT แบบละเอียดและอัพเดทล่าสุด ที่นั่นคุณจะได้พบกับเนื้อหาคุณภาพที่จะช่วยให้คุณเข้าใจและประยุกต์ใช้ ICT Strategy ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การเดินทางสู่ความเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพเริ่มต้นจากการเข้าใจว่า Inner Circle Trader (ICT) คืออะไร และวันนี้คุณได้ก้าวแรกไปแล้ว ขั้นต่อไปคือการปรับใช้ความรู้นี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการเทรดของคุณ

บทความที่น่าสนใจ
Scroll to Top