ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ วางแผนธุรกิจ Scale Up ธุรกิจโต 100 ล้าน

ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร

ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร

ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร มีอะไรบ้าง?

ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร ความแตกต่างที่เทรดเดอร์ต้องรู้ก่อนเลือกเรียน

คุณกำลังสงสัยว่า ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร และไม่รู้ว่าควรเลือกเรียนแนวคิดไหนดี? หากคุณเป็นเทรดเดอร์ที่กำลังมองหาแนวทางใหม่ในการเทรด Forex หรือ Crypto บทความนี้จะตอบทุกข้อสงสัยของคุณแบบครบถ้วน พร้อมยกตัวอย่างที่เข้าใจง่าย เพื่อให้คุณเลือกแนวทางที่เหมาะกับตัวเองได้อย่างถูกต้อง

ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร เริ่มต้นทำความรู้จักกันก่อน

ICT (Inner Circle Trader) คือแนวคิดการเทรดที่พัฒนาโดย Michael Huddleston ซึ่งเชื่อว่าตลาดถูกควบคุมด้วยอัลกอริทึมที่เรียกว่า IPDA (Interbank Price Delivery Algorithm) ที่ทำให้ราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่ “พวกเขา” ต้องการ

SMC (Smart Money Concept) เป็นแนวคิดที่พัฒนามาจากทฤษฎีของ Richard Wyckoff ที่เน้นการติดตามการเคลื่อนไหวของเงินทุนรายใหญ่ (Smart Money) ผ่านการวิเคราะห์ Supply และ Demand

เมื่อเข้าใจคำจำกัดความแล้ว มาดูกันว่า ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร ในแต่ละมิติ

ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร มีอะไรบ้าง?

ความแตกต่างด้านปรัชญาหลัก ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร

ICT – เชื่อในอัลกอริทึมที่ควบคุมตลาด

ICT เชื่อว่าตลาดไม่ได้เกิดขึ้นแบบสุ่ม แต่มี IPDA Algorithm ที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของราคา เหมือนกับมี “ผู้กำกับ” คอยบอกให้ราคาไปขึ้นหรือลงในจังหวะที่เหมาะสม

ตัวอย่าง: เมื่อราคา EURUSD แตะ Order Block ที่ 1.0800 ICT จะมองว่านี่คือจุดที่อัลกอริทึมต้องการให้ราคาดีดตัวขึ้น เพื่อ “เก็บ” Liquidity ของผู้เทรดที่วาง Stop Loss ไว้เหนือระดับนั้น

SMC – เน้นการติดตาม Smart Money

SMC เชื่อว่าตลาดเคลื่อนไหวตามกฎของ Supply และ Demand โดยเน้นการติดตามรอยเท้าของนักลงทุนรายใหญ่ผ่านสัญญาณต่างๆ เช่น Break of Structure (BOS) และ Change of Character (CHoCH)

ตัวอย่าง: เมื่อเห็น BTCUSDT ทำ Higher High แล้วตามด้วย Higher Low SMC จะมองว่า Smart Money กำลังซื้อ (Accumulation) และควรหาจังหวะเข้า Long

ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร ในเรื่องเครื่องมือวิเคราะห์

เครื่องมือหลักของ ICT

  1. Market Structure
  • Internal Range Liquidity (เหมือนการ “ตั้งกับดัก” สำหรับเทรดเดอร์รายย่อย)
  • External Range Liquidity (การไล่ Stop Loss ของคนที่เทรดผิดทิศทาง)
  1. PD Arrays (Premium/Discount Arrays)
  • Order Block: เขตราคาที่สถาบันเข้าซื้อ/ขายครั้งใหญ่
  • Fair Value Gap: ช่องโหว่ราคาที่ต้องถูก “เติม” ให้เต็ม
  • Mitigation Block: จุดที่ราคากลับมาทดสอบเพื่อ “ชำระหนี้”

ตัวอย่างการใช้งาน: ถ้าราคา GBPUSD สร้าง Fair Value Gap ที่ 1.2500-1.2520 ICT เทรดเดอร์จะรอให้ราคากลับมา “เติม” ช่องโหว่นี้ก่อนหาจังหวะเข้าเทรด

เครื่องมือหลักของ SMC

  1. Market Structure Shifts
  • Break of Structure (BOS): การทำลายโครงสร้างเก่า
  • Change of Character (CHoCH): การเปลี่ยนแปลึงพฤติกรรมของตลาด
  1. Liquidity Concepts
  • Liquidity Sweep: การไล่ Stop Loss
  • Liquidity Pool: บริเวณที่มี Stop Loss รวมตัวกันมาก
  • Fair Value Gap (FVG): ช่องว่างราคาที่เกิดจากความไม่สมดุล

ตัวอย่างการใช้งาน: เมื่อ XAUUSD ทำ Liquidity Sweep ที่ Swing High แล้วเกิด CHoCH เป็น Bearish SMC เทรดเดอร์จะมองหาจังหวะ Short

ระดับความยากในการเรียนรู้ ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร

ICT – ต้องใช้เวลานานกว่า

การเรียน ICT เหมือนกับการเรียนภาษาใหม่ที่มีไวยากรณ์ซับซ้อน คุณต้องเข้าใจคำศัพท์เฉพาะมากมาย เช่น:

  • IPDA Algorithm
  • Premium/Discount Matrix
  • Algorithmic Interference
  • Institutional Order Flow

เวลาที่ต้องใช้: โดยเฉลี่ย 1-2 ปี ถึงจะเข้าใจและนำไปใช้ได้อย่างมั่นใจ

ตัวอย่าง: การหา Entry Point ใน ICT ต้องดูหลายปัจจัย เช่น Market Structure, PD Array, Time-based Analysis และ Sentiment ทำให้การตัดสินใจใช้เวลานานกว่า

SMC – เรียนรู้ได้เร็วกว่า

SMC ใช้แนวคิดที่ใกล้เคียงกับ Technical Analysis แบบดั้งเดิม ทำให้คนที่มีพื้นฐาน TA อยู่แล้วสามารถปรับตัวได้เร็ว

เวลาที่ต้องใช้: 3-6 เดือน สำหรับการเข้าใจพื้นฐานและเริ่มนำไปใช้ได้

ตัวอย่าง: การหา Entry ใน SMC อาจง่ายเพียงดู BOS + FVG + Order Block ก็สามารถตัดสินใจได้แล้ว

วิธีการหากำไร ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร

ICT – กำไรจากการเข้าใจ Algorithm

ICT เทรดเดอร์จะทำกำไรจากการคาดเดาว่า IPDA Algorithm จะส่งราคาไปทิศทางไหนต่อไป โดยอาศัยการวิเคราะห์:

  1. Fractal Analysis เมื่อเห็นราคาทำรูปแบบเดิมซ้ำในไทม์เฟรมต่างๆ
  2. Narrative Trading การเทรดตาม “เรื่องเล่า” ที่ Algorithm ต้องการสื่อสาร

ตัวอย่าง: ถ้า USDJPY กำลังอยู่ในช่วง “Distribution” ตาม ICT Narrative เทรดเดอร์จะหา Short Setup และคาดหวังกำไร 200-500 pips

SMC – กำไรจากการติดตาม Smart Money

SMC เทรดเดอร์ทำกำไรจากการ “ซื้อตอนที่ Smart Money ซื้อ ขายตอนที่เขาขาย” ผ่านสัญญาณ:

  1. Liquidity Grab แล้วตาม Reversal เมื่อเห็น Smart Money ไล่ Stop Loss แล้วเปลี่ยนทิศทาง
  2. Order Block Retest เมื่อราคากลับมาทดสอบจุดที่ Smart Money เข้าครั้งใหญ่

ตัวอย่าง: GBPJPY ทำ Liquidity Sweep ที่ 185.50 แล้วเกิด CHoCH เป็น Bearish SMC เทรดเดอร์จะ Short ตัวนี้และคาดหวังกำไร 100-300 pips

การบริหารความเสี่ยง ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร

ICT – ใช้ Market Structure ในการวาง Stop Loss

ICT เน้นการวาง Stop Loss ตาม:

  • Swing High/Low ของ Internal Structure
  • Order Block Invalidation Level
  • Fair Value Gap Closure Point

ตัวอย่าง: Long EURUSD ที่ 1.0800 วาง Stop Loss ที่ 1.0750 (ใต้ Order Block) Risk:Reward อาจไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับ Market Structure

SMC – มี R:R Ratio ที่ชัดเจนกว่า

SMC มักใช้ Risk:Reward แบบมาตรฐาน:

  • 1:2 สำหรับ Swing Trading
  • 1:3 สำหรับ Position Trading
  • Stop Loss ที่ Order Block หรือ Structure Low/High

ตัวอย่าง: Short XAUUSD ที่ 2000 Stop Loss ที่ 2020 (20$) Target ที่ 1960 (40$) R:R = 1:2

ข้อดีข้อเสียเมื่อเปรียบเทียบ ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร

ข้อดีของ ICT

  • เข้าใจตลาดในระดับลึก สามารถคาดการณ์ได้ไกล
  • กำไรต่อครั้งสูง เมื่อเดาทิศทางถูก
  • เหมาะกับคนที่ชอบความท้าทายและการวิเคราะห์ซับซ้อน

ข้อเสียของ ICT

  • ใช้เวลาเรียนรู้นาน อาจผิดหวังในระยะแรก
  • ไม่มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนในบางเรื่อง
  • อาจเกิด Analysis Paralysis (วิเคราะห์มากเกินไปจนไม่กล้าเทรด)

ข้อดีของ SMC

  • เรียนรู้ได้เร็ว เห็นผลในระยะสั้น
  • มีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน R:R คำนวณได้
  • ใช้ได้กับทุกตลาด (Forex, Crypto, Stock)

ข้อเสียของ SMC

  • อาจไม่ลึกพอสำหรับการทำความเข้าใจตลาดในระยะยาว
  • บางครั้งอาจเกิด False Signal จาก Liquidity Grab
  • ต้องระวังการใช้ร่วมกับ Retail Indicator ที่อาจขัดแย้งกัน

แนวทางการประยุกต์ใช้ ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร ในโลกจริง

การใช้งานจริงของ ICT

Morning Session (เซสชั่น London)

  • ดู Daily Bias จาก Higher Timeframe
  • รอ Algorithm รัน Liquidity ในช่วง 08:00-10:00 GMT
  • เข้า Position ตาม PD Array ที่เหมาะสม

ตัวอย่างการเทรดจริง: วันจันทร์ GBPUSD Daily Bias Bearish จาก Premium เข้าสู่ Discount รอ London Kill Zone (08:00-10:00 GMT) ดู Liquidity Sweep ที่ 1.2650 แล้วหา Short Entry ที่ Order Block 1.2630

การใช้งานจริงของ SMC

Any Session

  • สแกน Market Structure ใน H4/H1
  • หา BOS/CHoCH
  • เข้า Entry ที่ Order Block หรือ FVG

ตัวอย่างการเทรดจริง: XAUUSD ทำ CHoCH Bullish ใน H4 กลับมาเทส Order Block ที่ 1980 เข้า Long Target ที่ Previous High 2020 Stop Loss ที่ 1970

ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร ควรเลือกเรียนอันไหน

เลือก ICT ถ้าคุณเป็น:

  • คนที่ชอบความท้าทายและการเรียนรู้ในระดับลึก
  • มีเวลาศึกษาอย่างจริงจัง 1-2 ปี
  • ต้องการเข้าใจ “เบื้องหลัง” ของการเคลื่อนไหวของตลาด
  • ชื่นชอบการวิเคราะห์ที่ซับซ้อนและมีรายละเอียด

เลือก SMC ถ้าคุณเป็น:

  • มือใหม่ที่ต้องการเห็นผลเร็ว
  • มีเวลาจำกัดสำหรับการศึกษา
  • ต้องการกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนในการเทรด
  • เคยเรียน Technical Analysis มาแล้ว

การผสมผสานทั้งสอง

หลายเทรดเดอร์มืออาชีพใช้ ICT กับ SMC ร่วมกัน โดย:

  • ใช้ ICT ดู Big Picture และ Market Narrative รายสัปดาห์
  • ใช้ SMC หา Entry/Exit ในรายวัน
  • ผสม Order Block จากทั้งสองแนวคิด
  • ใช้ Liquidity Concept ร่วมกัน

ตัวอย่างการใช้ร่วมกัน: ICT บอกว่า EURUSD จะ Bearish ในสัปดาห์นี้ (Daily Premium to Discount) ใช้ SMC หา CHoCH Bearish ใน H4 แล้วเข้า Short ที่ Order Block ที่ตรงกันทั้งสอง Concept

เรียนรู้เพิ่มเติมกับ ICT Trader

หากคุณต้องการเจาะลึกเรื่อง ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร และนำไปใช้ในการเทรดจริง แนะนำให้ติดตามช่อง YouTube “ICT Trader” ที่มีเนื้อหาครบถ้วนทั้งทฤษฎีและการปฏิบัติจริง ไม่ว่าจะเป็น:

  • การวิเคราะห์ Market Structure แบบ Step by Step
  • ตัวอย่างการเทรดจริงในแต่ละสถานการณ์
  • เทคนิคการผสมผสาน ICT กับ SMC
  • การบริหารความเสี่ยงแบบมืออาชีพ
  • Live Trading Session และการวิเคราะห์ตลาดแบบเรียลไทม์

ช่อง ICT Trader จะช่วยให้คุณเข้าใจ ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร ในเชิงปฏิบัติ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับสไตล์การเทรดของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้จากตัวอย่างจริงและประสบการณ์ของเทรดเดอร์มืออาชีพจะช่วยให้คุณก้าวข้ามข้อผิดพลาดทั่วไปและพัฒนาทักษะการเทรดได้เร็วขึ้น

ไม่ว่าคุณจะเลือกเรียน ICT หรือ SMC การมีแหล่งความรู้ที่เชื่อถือได้และมีประสบการณ์จริงคือสิ่งสำคัญที่สุดในการสร้างความสำเร็จในการเทรด การติดตามและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณเข้าใจว่า ICT กับ SMC ต่างกันอย่างไร ในแง่มุมต่างๆ และเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับสถานการณ์ตลาดได้อย่างแม่นยำ

บทความที่น่าสนใจ
Scroll to Top