ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ วางแผนธุรกิจ Scale Up ธุรกิจโต 100 ล้าน

สอนเทรด ICT Concept มือใหม่ต้องรู้ เทรดเป็น ทำกำไรได้ทันที

สอนเทรด ICT Concept มือใหม่ต้องรู้ เทรดเป็น ทำกำไรได้ทันที

สอนเทรด ICT

สอนเทรด ICT Concept ฉบับมือใหม่: เจาะลึกเคล็ดลับทำกำไรขั้นเทพ สไตล์ ICT Trader ที่คุณต้องรู้!

คุณกำลังมองหาระบบเทรดที่ “ใช่” จบทุกปัญหา โดน Stop Loss บ่อย ทำกำไรไม่ต่อเนื่องอยู่ใช่ไหม? ถ้าคำตอบคือ “ใช่” เตรียมตัวให้พร้อม เพราะบทความนี้จะเปิดโลก สอนเทรด ICT Concept สุดยอดเทคนิคที่นักเทรดระดับโลกหลายล้านคนให้ความสนใจ ด้วยความแม่นยำสูงและหลักการที่เข้าใจง่าย จนคุณสามารถนำไปปรับใช้เพื่อสร้างกำไรได้อย่างยั่งยืน!

ICT Trader เข้าใจดีว่าการเทรดในตลาดที่ผันผวนนั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น หรือนักเทรดที่กำลังมองหาระบบที่แข็งแกร่งกว่าเดิม บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึก สอนเทรด ICT ตั้งแต่พื้นฐานสำคัญที่มือใหม่ต้องรู้ ไปจนถึงกลยุทธ์ขั้นสูงที่ช่วยให้คุณเทรดได้อย่างมั่นใจและทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ พร้อมตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจน เพื่อให้คุณเข้าใจ สอนเทรด ICT ได้ง่ายยิ่งขึ้น

สอนเทรด ICT

1. ICT คืออะไร? แตกต่างจากระบบเทรดอื่นอย่างไร?

หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการเทรดแบบแนวรับแนวต้าน (Support and Resistance) หรือ Supply and Demand แต่ สอนเทรด ICT นั้นมีมุมมองที่แตกต่างและลึกซึ้งกว่า โดยหัวใจหลักของ สอนเทรด ICT คือการโฟกัสไปที่ Liquidity (สภาพคล่อง) ในตลาด

Liquidity คืออะไร? ลองจินตนาการถึงสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่มีคนกระโดดลงมาเล่นมากมาย นั่นแหละคือ Liquidity ในตลาดที่มีออเดอร์ซื้อขายจำนวนมาก ทำให้ราคาเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ในทางตรงกันข้าม หากสระว่ายน้ำเงียบเหงา มีคนเล่นน้อย นั่นก็คือ Liquidity ต่ำ ราคาอาจจะเคลื่อนไหวช้าและผันผวนน้อย

แล้ว Liquidity เกี่ยวข้องกับ สอนเทรด ICT อย่างไร? สอนเทรด ICT เชื่อว่า “เจ้ามือ” หรือ Smart Money (กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ เช่น กองทุน สถาบันการเงิน) มักจะเข้ามา “ล่า” Liquidity ที่นักเทรดรายย่อยวางไว้ตามแนวรับแนวต้าน หรือจุด Stop Loss ต่างๆ เพื่อเก็บเกี่ยวออเดอร์เหล่านั้นไว้ในมือของตนเอง และขับเคลื่อนราคาไปในทิศทางที่พวกเขาต้องการ

ตัวอย่าง: ลองนึกภาพกราฟราคาที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแนวรับแนวต้าน นักเทรดส่วนใหญ่มักจะตั้ง Buy Order ไว้ที่แนวรับ และ Sell Order ไว้ที่แนวต้าน พร้อมกับตั้ง Stop Loss เหนือแนวต้านและใต้แนวรับ สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นคือ ราคามักจะ “แหย่” ลงมาชน Stop Loss ของฝั่ง Buy ก่อนที่จะดีดตัวขึ้น หรือ “แหย่” ขึ้นไปชน Stop Loss ของฝั่ง Sell ก่อนที่จะร่วงลง นี่คือสิ่งที่ สอนเทรด ICT เรียกว่า “การกวาด Liquidity”

ความแตกต่าง: ระบบเทรดแบบดั้งเดิมอาจจะมองว่าการทะลุแนวรับคือสัญญาณ Sell และการทะลุแนวต้านคือสัญญาณ Buy แต่ สอนเทรด ICT จะมองลึกลงไปอีกว่า การทะลุนั้นอาจเป็นการ “หลอก” เพื่อกวาด Liquidity ก่อนที่จะเคลื่อนไหวจริง ดังนั้น สอนเทรด ICT จะให้ความสำคัญกับการสังเกตพฤติกรรมราคา ณ บริเวณ Liquidity เพื่อหาจังหวะเข้าเทรดที่มีความแม่นยำสูงกว่า

2. Power of Three (AMD): กุญแจไขรหัสแท่งเทียน

อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของ สอนเทรด ICT คือแนวคิดเรื่อง Power of Three หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า AMD (Accumulation, Manipulation, Distribution) ซึ่งเป็นโครงสร้างหลักที่มักจะเกิดขึ้นในแท่งเทียน โดยเฉพาะใน Timeframe ใหญ่ๆ

AMD คืออะไร?

  • Accumulation (A): ช่วงสะสมราคา เป็นช่วงที่ตลาด Sideway ไม่เลือกทิศทางที่ชัดเจน คล้ายกับการ “เก็บของ” ของ Smart Money ก่อนที่จะมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่
  • Manipulation (M): ช่วง “หลอก” หรือ “ปั่น” ราคา เป็นช่วงที่ Smart Money พยายามที่จะกวาด Liquidity หรือ Stop Loss ของนักเทรดส่วนใหญ่ อาจจะมีการทุบราคาลงแรงๆ หรือดันราคาขึ้นสูงๆ อย่างรวดเร็ว เพื่อให้เกิดความสับสนและกระตุ้นให้เกิดการเทรดผิดทาง
  • Distribution (D): ช่วงกระจายราคา เป็นช่วงที่ราคาเคลื่อนไหวอย่างมีทิศทางชัดเจน หลังจากที่ Smart Money ได้เก็บเกี่ยวออเดอร์และเคลียร์ Liquidity เรียบร้อยแล้ว ราคาก็มักจะพุ่งขึ้นหรือร่วงลงอย่างรุนแรงเพื่อทำกำไร

ตัวอย่าง: ลองพิจารณาแท่งเทียน Day หนึ่งแท่ง ในช่วง Accumulation ราคาอาจจะแกว่งตัวแคบๆ ไม่ไปไหน จากนั้นในช่วง Manipulation อาจจะมีการทุบราคาลงมาอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายคนคิดว่าราคาจะลงต่อและเปิด Sell แต่จริงๆ แล้วเป็นการ “ล่อ” ให้คน Sell ก่อนที่ราคาจะดีดตัวขึ้นอย่างรุนแรงในช่วง Distribution

สอนเทรด ICT กับ AMD: การเข้าใจโครงสร้าง AMD ช่วยให้เราสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาได้แม่นยำยิ่งขึ้น เราจะรอให้เกิดช่วง Accumulation และสังเกตพฤติกรรมราคาในช่วง Manipulation เพื่อหาจังหวะเข้าเทรดตามทิศทางของ Distribution ซึ่งมักจะเป็นช่วงที่เราสามารถทำกำไรได้มากที่สุด

3. Market Structure Shift (MSS): ยืนยันการเปลี่ยนเทรนด์ สอนเทรด ICT

เมื่อเรารู้จัก Liquidity และ AMD แล้ว สิ่งสำคัญต่อมาใน สอนเทรด ICT คือการทำความเข้าใจเรื่อง Market Structure Shift (MSS) หรือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างราคา ซึ่งเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนทิศทางของเทรนด์

MSS คืออะไร? ในเทรนด์ขาลง ราคาจะสร้าง Lower Highs (จุดสูงสุดที่ต่ำลง) และ Lower Lows (จุดต่ำสุดที่ต่ำลง) อย่างต่อเนื่อง ในทางกลับกัน ในเทรนด์ขาขึ้น ราคาจะสร้าง Higher Highs (จุดสูงสุดที่สูงขึ้น) และ Higher Lows (จุดต่ำสุดที่สูงขึ้น)

การเกิด MSS: เมื่อราคาไม่สามารถสร้าง Lower Low (ในเทรนด์ขาลง) หรือ Higher High (ในเทรนด์ขาขึ้น) ได้อีกต่อไป และกลับมาทำลาย Higher High ก่อนหน้า (ในเทรนด์ขาลง) หรือ Lower Low ก่อนหน้า (ในเทรนด์ขาขึ้น) นั่นเป็นสัญญาณเบื้องต้นของการเกิด MSS หรือการเปลี่ยนโครงสร้างราคา

ตัวอย่าง: สมมติว่ากราฟกำลังอยู่ในเทรนด์ขาลง โดยมีการสร้าง Lower Highs และ Lower Lows มาโดยตลอด จู่ๆ ราคาก็ไม่สามารถทำ Lower Low ใหม่ได้ และกลับขึ้นไปทะลุ Higher High ก่อนหน้า นี่คือสัญญาณว่าโครงสร้างราคาอาจจะเปลี่ยนจากขาลงเป็นขาขึ้น

สอนเทรด ICT กับ MSS: การรอให้เกิด MSS เป็นการยืนยันที่สำคัญก่อนที่เราจะตัดสินใจเข้าเทรดตามเทรนด์ใหม่ หลังจากเกิด MSS แล้ว ราคามักจะมีการย่อตัวลงมา (Retracement) ซึ่งเป็นจังหวะที่ดีในการหาจุดเข้าซื้อ (ในกรณีที่เปลี่ยนจากขาลงเป็นขาขึ้น) หรือจุดเข้าขาย (ในกรณีที่เปลี่ยนจากขาขึ้นเป็นขาลง)

4. PD Array: ค้นหาโซนศักยภาพสูง สอนเทรด ICT

PD Array (Premium Discount Array) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือสำคัญใน สอนเทรด ICT ที่ช่วยให้เราสามารถระบุโซนที่มีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับตัว หรือเป็นจุดเข้าเทรดที่มีความได้เปรียบ

Premium และ Discount คืออะไร?

  • Premium Zone: โซนราคาสูงกว่าจุดกึ่งกลางของกรอบราคาที่เราพิจารณา มักจะเป็นโซนที่เหมาะสมสำหรับการ Sell
  • Discount Zone: โซนราคาต่ำกว่าจุดกึ่งกลางของกรอบราคาที่เราพิจารณา มักจะเป็นโซนที่เหมาะสมสำหรับการ Buy

การหา Premium และ Discount Zone: โดยทั่วไป เราจะใช้ Fibonacci Retracement ในการแบ่งกรอบราคาออกเป็นโซน Premium (เหนือระดับ 50%) และ Discount (ใต้ระดับ 50%)

PD Array อื่นๆ: นอกจาก Premium และ Discount Zone แล้ว สอนเทรด ICT ยังมีแนวคิดเรื่อง PDF Array อื่นๆ ที่เป็นโซนที่มีนัยสำคัญ เช่น

  • Fair Value Gap (FVG): ช่องว่างของราคาที่เกิดจากการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว มักจะเป็นเป้าหมายที่ราคาจะกลับมาเติมเต็ม
  • Order Block: แท่งเทียนสุดท้ายก่อนการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ มักจะเป็นโซนที่มีออเดอร์จำนวนมากของ Smart Money
  • Demand/Supply Zone: โซนที่มีแรงซื้อหรือแรงขายสะสมอยู่

ตัวอย่าง: หลังจากที่ราคาเกิด MSS เปลี่ยนจากขาลงเป็นขาขึ้น เราจะใช้ Fibonacci Retracement เพื่อหา Discount Zone ซึ่งเป็นโซนที่เราจะรอให้ราคาย่อตัวลงมาเพื่อหาจังหวะ Buy โดยอาจจะพิจารณาควบคู่กับ PD Array อื่นๆ เช่น Order Block หรือ Fair Value Gap ที่อยู่ในโซน Discount นั้น

สอนเทรด ICT กับ PD Array: การระบุ PD Array ช่วยให้เราสามารถวางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะรอให้ราคากลับมาที่โซนเหล่านี้เพื่อหาจังหวะเข้าเทรดที่มี Risk Reward Ratio ที่คุ้มค่า

5. IPDA: เข้าใจวัฏจักรราคา สอนเทรด ICT

IPDA (Interbank Price Delivery Algorithm) เป็นแนวคิดใน สอนเทรด ICT ที่อธิบายถึงวัฏจักรการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด ซึ่งแบ่งออกเป็น 5 ช่วงหลักๆ ได้แก่

  1. Consolidation: ช่วงพักตัวของราคา หรือ Sideway ไม่มีความชัดเจนของทิศทาง
  2. Manipulation: ช่วง “หลอก” หรือ “ปั่น” ราคา เพื่อกวาด Liquidity
  3. Expansion: ช่วงที่ราคาเคลื่อนไหวอย่างมีทิศทางชัดเจนและรุนแรง
  4. Retracement: ช่วงที่ราคาพักตัวหรือย่อตัวลงมาหลังจาก Expansion
  5. Reversal: ช่วงที่ราคาเริ่มกลับตัวเปลี่ยนทิศทาง

ตัวอย่าง: หลังจากช่วง Consolidation ราคาอาจจะมีการ Manipulation โดยการทุบลงมาก่อนที่จะเกิด Expansion พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นราคาก็จะ Retracement ลงมา ซึ่งเป็นจังหวะให้เราหาจุดเข้า Buy ในโซน Discount ก่อนที่ราคาจะ Expansion ขึ้นไปอีกครั้ง

สอนเทรด ICT กับ IPDA: การเข้าใจวัฏจักร IPDA ช่วยให้เราสามารถระบุได้ว่าขณะนี้ราคาอยู่ในช่วงไหน และควรวางแผนการเทรดอย่างไร เช่น ในช่วง Consolidation เราจะหลีกเลี่ยงการเทรด แต่จะรอสังเกตพฤติกรรมราคาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเทรดในช่วง Expansion หรือ Retracement

สรุป สอนเทรด ICT Concept: หนทางสู่การเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ

สอนเทรด ICT Concept ไม่ได้เป็นเพียงแค่ระบบเทรด แต่เป็น “ปรัชญา” ในการมองตลาดอย่างลึกซึ้ง เข้าใจพฤติกรรมของ Smart Money และใช้ประโยชน์จาก Liquidity ในการทำกำไรอย่างยั่งยืน

หัวใจสำคัญของ สอนเทรด ICT ที่คุณต้องจำ:

Liquidity: เข้าใจว่าตลาดขับเคลื่อนด้วย Liquidity และ Smart Money มักจะเข้ามาล่า Liquidity
Power of Three (AMD): โครงสร้าง Accumulation, Manipulation, Distribution ที่มักเกิดขึ้นในแท่งเทียน
Market Structure Shift (MSS): สัญญาณการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างราคาและการเปลี่ยนเทรนด์
PDF Array: โซนที่มีศักยภาพสูงในการกลับตัวของราคา เช่น Premium, Discount, Fair Value Gap, Order Block
IPDA: วัฏจักรการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด

สำหรับมือใหม่ที่สนใจ สอนเทรด ICT: การเริ่มต้นอาจจะดูซับซ้อน แต่ด้วยการศึกษาและฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ คุณจะค่อยๆ เข้าใจหลักการและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการเทรดของคุณได้

ICT Trader ขอเป็นกำลังใจให้คุณบนเส้นทางการเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ และอย่าลืมติดตามช่อง YouTube “ICT Trader” เพื่อเรียนรู้เทคนิคและกลยุทธ์ สอนเทรด ICT ที่จะช่วยยกระดับการเทรดของคุณไปอีกขั้น! ที่ช่องของเรา คุณจะได้พบกับเนื้อหาที่เข้มข้น เข้าใจง่าย พร้อมตัวอย่างการเทรดจริง ที่จะช่วยให้คุณเห็นภาพและนำไปปรับใช้ได้จริง

หากคุณต้องการเรียนรู้ สอนเทรด ICT แบบเจาะลึก ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง พร้อมรับคำแนะนำและการตรวจการบ้านอย่างใกล้ชิด สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคอร์สเรียน ICT Trader Club ได้เลย เราได้สรุปและกลั่นกรองเอาเฉพาะเนื้อหาและเทคนิคที่ดีที่สุดของ สอนเทรด ICT มาไว้ในคอร์สนี้ เพื่อให้คุณสามารถเริ่มต้นเป็นนักเทรดที่ทำกำไรได้อย่างยั่งยืน

พิเศษ! สำหรับผู้ที่ตัดสินใจสมัครคอร์สวันนี้ รับโบนัสพิเศษมากมาย ที่จะช่วยให้คุณก้าวสู่การเป็นนักเทรดมืออาชีพได้อย่างรวดเร็ว

รีบเริ่มต้นเรียนรู้ สอนเทรด ICT กับ ICT Trader วันนี้ แล้วคุณจะพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการเทรดของคุณ!

บทความที่น่าสนใจ
Scroll to Top