ที่ปรึกษาการตลาดออนไลน์ วางแผนธุรกิจ Scale Up ธุรกิจโต 100 ล้าน

สอน ICT Killzone เจาะลึกทุก Timeframe ทำกำไรได้ทุกสภาวะตลาด

สอน ICT Killzone เจาะลึกทุก Timeframe ทำกำไรได้ทุกสภาวะตลาด

สอน ICT Killzone

ปลดล็อกกำไรฟ้าผ่า! สอน ICT Killzone เทรดสั้น 1-2 ชั่วโมง ทำกำไรเหนือชั้น ไม่ต้องเฝ้าจอทั้งวัน! 🔥

เบื่อไหมกับการเทรดทั้งวันทั้งคืน แต่กำไรกลับสวนทาง? คุณเองก็เป็นเหมือนกันใช่ไหม? ที่ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอเทรดนานนับชั่วโมง แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับไม่คุ้มค่าเหนื่อย แถมยังเสียเวลาทำอย่างอื่นในชีวิตไปอีกมากมาย…

หยุด! ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป เพราะวันนี้ผม  สอน ict killzone อย่างเจาะลึก! ผมจะมาเปิดเผยเคล็ดลับการเทรดเพียง 1-2 ชั่วโมงต่อวัน แต่สามารถสร้าง กำไร ได้อย่างน่าเหลือเชื่อ!

ถ้าคุณอยากเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องจมอยู่กับกราฟทั้งวัน อยากมีเวลาไปทำสิ่งที่รัก และที่สำคัญที่สุดคือ ทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ บทความนี้คือ กุญแจสำคัญ ที่คุณไม่ควรพลาด!

เตรียมตัวให้พร้อม เพราะผมจะพาคุณไปเจาะลึกทุกรายละเอียดของ “สอน ict killzone” ตั้งแต่พื้นฐาน จนถึงเทคนิคการนำไปใช้จริง พร้อมตัวอย่างที่เห็นภาพชัดเจน เพื่อให้คุณสามารถนำไปปรับใช้และสร้างผลลัพธ์ได้อย่างแน่นอน!

สอน ICT killzone

1. ไขความลับ “สอน ict killzone” คืออะไร? ทำไมถึงทรงพลัง? 🚀

สอน ict killzone ไม่ใช่สูตรลับซับซ้อน แต่เป็นแนวคิดที่อิงหลักการ Intraday Price Delivery Algorithm (IPDA) ของปรมาจารย์ด้านการเทรดอย่าง Michael J. Huddleston หรือที่รู้จักกันในนาม ICT (Inner Circle Trader) ซึ่งเน้นการทำความเข้าใจพฤติกรรมราคาในช่วงเวลาที่มี ปริมาณการซื้อขายหนาแน่น หรือที่เรียกว่า Killzone นั่นเอง

Killzone เปรียบเสมือน “ช่วงเวลาทอง” ในตลาด ที่นักลงทุนสถาบันและรายใหญ่เข้ามาเคลื่อนไหวราคาอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เกิด สภาพคล่องสูง และ ความผันผวนมาก ซึ่งเป็น โอกาสทอง สำหรับนักเทรดในการทำกำไรได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ทำไม “สอน ict killzone” ถึงทรงพลัง?

  • จับจังหวะตลาดสำคัญ: Killzone เป็นช่วงเวลาที่ตลาดมีแนวโน้มที่จะเกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ การเทรดในช่วงนี้จึงมีโอกาสทำกำไรได้มากกว่าช่วงเวลาอื่น
  • สภาพคล่องสูง: ปริมาณการซื้อขายที่หนาแน่นช่วยให้การเข้าและออกจากออเดอร์เป็นไปอย่างราบรื่น ลดความเสี่ยงของการเกิด Slippage
  • ความผันผวนเป็นใจ: ราคาที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วใน Killzone ช่วยให้เราสามารถทำกำไรจากส่วนต่างราคาได้มากขึ้น
  • ลดเวลาเฝ้าหน้าจอ: ด้วยการโฟกัสการเทรดในช่วงเวลา Killzone ทำให้เราไม่จำเป็นต้องนั่งเฝ้ากราฟตลอดทั้งวัน ประหยัดเวลาและลดความเครียดในการเทรด

เปรียบเทียบให้เห็นภาพ: ลองจินตนาการว่าคุณกำลังตกปลา หากคุณไปตกปลาในบ่อที่ไม่มีปลาเลย คุณก็จะเสียเวลาเปล่า แต่ถ้าคุณรู้ว่ามีช่วงเวลาที่ปลาจะมารวมตัวกันเยอะที่สุด คุณก็จะสามารถจับปลาได้อย่างรวดเร็วและได้จำนวนมาก การเทรดใน Killzone ก็เหมือนกับการตกปลาในช่วงเวลาที่ “ปลาชุม” นั่นเอง!

2. เจาะลึก 4 ช่วงเวลา “สอน ict killzone” ที่นักเทรดต้องรู้!

ตามหลักการของ ICT แล้ว Killzone จะแบ่งออกเป็น 4 ช่วงเวลาหลักๆ ดังนี้:

  1. Asian Killzone (08:00 – 12:00 น. ตามเวลาประเทศไทย): ช่วงพักตัว สะสมพลัง 😴

    • ลักษณะ: ช่วงเวลานี้มักจะเป็นช่วงที่ตลาดเอเชียเปิดทำการ โดยส่วนใหญ่แล้วกราฟจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ หรือที่เรียกว่า Consolidation เป็นช่วงที่ราคาพักตัวและสะสมแรงก่อนที่จะเกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในช่วง Killzone ถัดไป
    • โอกาสในการเทรด: โดยทั่วไปแล้ว Asian Killzone ไม่เหมาะกับการเทรดเพื่อทำกำไรระยะสั้น เนื่องจากราคาไม่ค่อยเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตาม นักเทรดบางรายที่ใช้กลยุทธ์การเทรดในกรอบ Sideways ที่มี Win Rate สูง อาจจะสามารถทำกำไรได้ในช่วงนี้ แต่ต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์
    • ข้อควรระวัง: การเทรดในช่วง Consolidation อาจทำให้เสียเวลาและได้ Reward ไม่คุ้มค่า เพราะกราฟอาจจะ Sideways เป็นเวลานานหลายชั่วโมง
    • ตัวอย่าง: ลองนึกภาพกราฟในช่วงเช้าของตลาดหุ้นไทย ราคาอาจจะแกว่งตัวขึ้นลงเล็กน้อยในกรอบที่ไม่กว้างมากนัก ก่อนที่จะเริ่มมีทิศทางชัดเจนในช่วงบ่าย
  2. London Killzone (13:00 – 17:00 น. ตามเวลาประเทศไทย): ช่วงขยายตัว สร้างทิศทาง 💥

    • ลักษณะ: เมื่อตลาดลอนดอนเปิดทำการ จะมี Volume และ สภาพคล่อง เข้ามาในตลาดมากขึ้น ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจน หรือที่เรียกว่า Expansion เป็นช่วงที่ตลาดเริ่มกำหนดทิศทางของวัน
    • โอกาสในการเทรด: London Killzone เป็นช่วงเวลาที่ได้รับความนิยมจากนักเทรดทั่วโลก เนื่องจากมีโอกาสในการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการ Breakout หรือการ Reversal
    • กลยุทธ์ที่เหมาะสม: การเทรดตามเทรนด์ที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ หรือการใช้ Price Action เพื่อหาจังหวะเข้าเทรดเมื่อราคามีการ Pullback เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ
    • ตัวอย่าง: หลังจากที่ราคา Sideways ในช่วงเช้า พอตลาดลอนดอนเปิด ราคาอาจจะเริ่มมีการ Breakout ออกจากกรอบ และเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างชัดเจน
  3. New York Killzone (20:30 – 22:00 น. ตามเวลาประเทศไทย): ช่วงทำกำไรสูงสุด ผันผวนรุนแรง 🌪️

    • ลักษณะ: New York Killzone เป็นช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดทำการ ซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และมี Volume การซื้อขายมากที่สุดในโลก ทำให้ช่วงเวลานี้มีความ ผันผวนสูง และมีโอกาสในการทำกำไรมากที่สุด
    • โอกาสในการเทรด: ช่วงเวลานี้เหมาะสำหรับนักเทรดที่ต้องการทำกำไรอย่างรวดเร็ว เนื่องจากราคาจะมีการเคลื่อนไหวที่รุนแรงในระยะเวลาอันสั้น
    • กลยุทธ์ที่เหมาะสม: การใช้ Price Action ร่วมกับแนวรับแนวต้าน หรือการเทรดตาม Momentum เป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้
    • ข้อควรระวัง: ความผันผวนที่สูงก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้น นักเทรดจึงควรมีการบริหารความเสี่ยงที่ดี และมีแผนการเทรดที่ชัดเจน
    • ตัวอย่าง: หลังจากที่ตลาดลอนดอนสร้างทิศทางไว้แล้ว เมื่อตลาดนิวยอร์กเปิด ราคาอาจจะมีการเร่งตัวขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดโอกาสในการทำกำไรในช่วงสั้นๆ
  4. London Close Killzone (22:00 – 00:00 น. ตามเวลาประเทศไทย): ช่วงปิดตลาด ล้างสถานะ 🌃

    • ลักษณะ: เป็นช่วงเวลาใกล้ปิดทำการของตลาดลอนดอน นักลงทุนบางส่วนอาจจะมีการปิดสถานะ (Close Position) เพื่อทำกำไร หรือลดความเสี่ยงก่อนข้ามวัน ทำให้เกิดความผันผวนได้บ้าง แต่โดยทั่วไปแล้วจะไม่มากเท่า New York Killzone
    • โอกาสในการเทรด: นักเทรดบางรายอาจจะใช้ช่วงเวลานี้ในการเทรดเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นจากการปิดสถานะของนักลงทุนรายใหญ่
    • ข้อควรระวัง: ควรระมัดระวังความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงใกล้ปิดตลาด และควรมี Stop Loss ที่ชัดเจน

สรุปช่วงเวลา “สอน ict killzone” ที่ควรโฟกัส:

สำหรับนักเทรดที่ต้องการเทรดเพียง 1-2 ชั่วโมงต่อวัน และมีโอกาสทำกำไรสูง ผมแนะนำให้โฟกัสที่ London Killzone (13:00 – 17:00 น.) และ New York Killzone (20:30 – 22:00 น.) เป็นหลัก เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่มี Volume และความผันผวนมากที่สุด

🔑 ไขรหัสลับ! หลักการและเงื่อนไขสำคัญ ที่จะทำให้คุณใช้ Turtle Soup ได้อย่างแม่นยำ

หลังจากที่เข้าใจคอนเซ็ปต์ของ Turtle Soup แล้ว ทีนี้เรามาเจาะลึกถึง “รหัสลับ” หรือหลักการและเงื่อนไขสำคัญที่จะทำให้เราใช้เทคนิคนี้ได้อย่างแม่นยำกันครับ! เปรียบเสมือนเรากำลังเรียนรู้สูตรลับของเชฟกระทะเหล็ก ที่ต้องใส่ส่วนผสมในปริมาณที่ถูกต้อง และตามขั้นตอนที่กำหนด เพื่อให้ได้รสชาติที่อร่อยลงตัว! 😋

หลักการสำคัญของ Turtle Soup:

  1. การระบุแนวรับแนวต้านสำคัญ (Significant Support and Resistance Levels): นี่คือขั้นตอนแรกและสำคัญที่สุด! เราต้องสามารถระบุแนวรับแนวต้านที่มีนัยสำคัญในอดีตได้ ซึ่งอาจจะมาจากจุดสูงสุด จุดต่ำสุด หรือบริเวณที่มีการพักตัวของราคานานๆ แนวรับแนวต้านเหล่านี้เปรียบเสมือน “เส้นแบ่งเขตแดน” ที่ราคาเคยมีการตอบสนองอย่างชัดเจน

    • ตัวอย่าง: ลองดูภาพกราฟทองคำย้อนหลัง หากเราเห็นว่าราคามีการขึ้นไปชนที่ระดับ 1,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ หลายครั้งแล้วไม่สามารถทะลุขึ้นไปได้ แสดงว่าบริเวณ 1,800 ดอลลาร์ฯ เป็น “แนวต้านสำคัญ” หรือถ้าราคาเคยลงมาถึง 1,750 ดอลลาร์ฯ แล้วดีดตัวขึ้นทุกครั้ง แสดงว่าบริเวณ 1,750 ดอลลาร์ฯ เป็น “แนวรับสำคัญ”
  2. การรอให้ราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านเพียงเล็กน้อย (Small Breakout): นี่คือ “สัญญาณแรก” ที่บอกว่าอาจจะเกิด Turtle Soup ขึ้น! ราคามักจะมีการ “ยืด” ตัวออกไปจากแนวรับแนวต้านนั้นๆ เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ใช่การทะลุแบบแข็งแกร่งและมีปริมาณการซื้อขาย (Volume) มหาศาล

    • เปรียบเทียบ: เหมือนเรากำลังเดินไปชนประตู🚪 ถ้าเราผลักประตูเบาๆ แล้วประตูก็เปิดออกนิดหน่อย แล้วก็เด้งกลับมา นั่นแหละครับคือลักษณะของการทะลุแนวรับแนวต้านแบบ “ไม่แข็งแกร่ง” ซึ่งเป็นสัญญาณของ Turtle Soup
  3. การกลับตัวอย่างรวดเร็ว (Quick Reversal): หลังจากที่ราคาทะลุแนวรับแนวต้านไปเพียงเล็กน้อย สิ่งที่เราต้องรอคือการ “กลับตัว” อย่างรวดเร็วกลับมาเหนือแนวรับเดิม หรือต่ำกว่าแนวต้านเดิม การกลับตัวนี้มักจะเกิดขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งอาจจะเป็นภายในไม่กี่แท่งเทียน (Candlestick)

    • ตัวอย่าง: ถ้าราคาทองคำลงไปต่ำกว่าแนวรับ 1,750 ดอลลาร์ฯ เล็กน้อย แล้วภายใน 1-2 แท่งเทียนถัดมา ราคาก็ดีดตัวกลับขึ้นมายืนเหนือ 1,750 ดอลลาร์ฯ ได้อีกครั้ง นี่คือสัญญาณของการเกิด Turtle Soup ในฝั่งของการ “ซื้อ” (Long)

เงื่อนไขสำคัญในการใช้เทคนิค Turtle Soup:

  1. กรอบเวลา (Timeframe): เทคนิค Turtle Soup สามารถใช้ได้กับหลากหลายกรอบเวลา แต่โดยทั่วไปแล้ว มักจะนิยมใช้กับกรอบเวลาที่สั้นลงมา เช่น H1 (1 ชั่วโมง), H4 (4 ชั่วโมง) หรือ D1 (รายวัน) ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดของแต่ละคน

    • คำแนะนำ: สำหรับมือใหม่ อาจจะเริ่มต้นด้วยกรอบเวลาที่ใหญ่ขึ้น เช่น H4 หรือ D1 เพื่อให้มีสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้น และลดความผันผวนในระยะสั้น
  2. การยืนยัน (Confirmation): แม้ว่าการทะลุแนวรับแนวต้านเพียงเล็กน้อยและการกลับตัวอย่างรวดเร็วจะเป็นสัญญาณสำคัญ แต่การมี “สัญญาณยืนยัน” เพิ่มเติมจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการเข้าออเดอร์ได้มากขึ้น สัญญาณยืนยันเหล่านี้อาจจะมาจาก:

    • รูปแบบแท่งเทียนกลับตัว (Reversal Candlestick Patterns): เช่น แท่งเทียน Doji, Engulfing, Hammer, Shooting Star เป็นต้น
    • Indicator: เช่น RSI (Relative Strength Index) หรือ Stochastic ที่แสดงภาวะ Overbought (ซื้อมากเกินไป) หรือ Oversold (ขายมากเกินไป) ในบริเวณแนวรับแนวต้าน
  3. การบริหารความเสี่ยง (Risk Management): สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเทรดทุกรูปแบบ ไม่เว้นแม้แต่ Turtle Soup คือการบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด! เราควรกำหนดขนาด Position ที่เหมาะสม และตั้ง Stop Loss ในจุดที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการขาดทุนที่มากเกินไป หากราคาไม่เป็นไปตามที่เราคาดการณ์ไว้

    • หลักการง่ายๆ: อย่าเสี่ยงเงินทุนทั้งหมดของคุณในการเทรดครั้งเดียว ควรกำหนดความเสี่ยงต่อการเทรดแต่ละครั้งไว้ที่ประมาณ 1-2% ของเงินทุนทั้งหมด

3. ผสานพลัง “สอน ict killzone” กับ Price Delivery สร้างความแม่นยำระดับเทพ! 🧙‍♂️

หากคุณมีความรู้ความเข้าใจเรื่อง IPDA (Intraday Price Delivery Algorithm) หรือ Price Action มาบ้างแล้ว การนำมาประยุกต์ใช้ร่วมกับ สอน ict killzone จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการเทรดของคุณได้อย่างมาก

IPDA อธิบายว่ากราฟราคาเคลื่อนไหวโดยมีรูปแบบที่แน่นอน แบ่งออกเป็น 4 สถานะหลักๆ:

  1. Consolidation (ช่วงพักตัว): ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ไม่มีทิศทางที่ชัดเจน มักเกิดขึ้นในช่วง Asian Killzone
  2. Expansion (ช่วงขยายตัว): ราคาเริ่มเคลื่อนไหวออกจากกรอบ Consolidation อย่างมีทิศทาง มักเกิดขึ้นในช่วง London Killzone
  3. Retracement (ช่วงย่อตัว): หลังจากเกิด Expansion ราคาอาจจะมีการย่อตัวกลับมาบ้าง เพื่อพักแรงก่อนที่จะไปต่อในทิศทางเดิม
  4. Continuation (ช่วงไปต่อ): ราคาเคลื่อนไหวต่อไปในทิศทางเดียวกับช่วง Expansion หลังจากที่ผ่านช่วง Retracement มาแล้ว มักเกิดขึ้นในช่วง New York Killzone

การนำ “สอน ict killzone” มาใช้ร่วมกับ IPDA:

  • รอจังหวะ Expansion ใน London Killzone: เมื่อตลาดลอนดอนเปิด ให้สังเกตการ Breakout ออกจากกรอบ Consolidation ในช่วง Asian Killzone หากมีการ Breakout อย่างมี Volume นี่อาจเป็นสัญญาณของการเกิด Expansion ซึ่งเป็นโอกาสในการเข้าเทรดตามทิศทางนั้น
  • หาจังหวะเข้าเทรดในช่วง Retracement ใน New York Killzone: หลังจากที่ราคาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในช่วง London Killzone อาจจะมีการย่อตัว (Retracement) ในช่วง New York Killzone การรอให้ราคาย่อตัวมายังแนวรับแนวต้านสำคัญ และเกิดสัญญาณ Price Action ที่บ่งบอกถึงการกลับตัว เป็นจังหวะเข้าเทรดที่ดี
  • หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วง Consolidation ใน Asian Killzone: หากคุณเป็นนักเทรดระยะสั้น การเทรดในช่วงที่ราคา Sideways อาจจะไม่คุ้มค่า ควรอดทนรอจนกว่าจะถึงช่วง Killzone ที่มี Volume และความผันผวนมากกว่า

ตัวอย่าง: สมมติว่าในช่วง Asian Killzone ราคาทองคำเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ พอถึงช่วง London Killzone ราคาเริ่มมีการ Breakout แนวต้านสำคัญขึ้นไปอย่างมี Volume นี่อาจเป็นสัญญาณของการเกิด Expansion ในฝั่งขาขึ้น คุณอาจจะรอให้ราคาย่อตัวลงมาเล็กน้อย (Retracement) ในช่วง New York Killzone และหาจังหวะเข้าซื้อเมื่อเกิดสัญญาณ Bullish Price Action เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวในฝั่งขาขึ้นต่อไป

4. สรุปประโยชน์ของการเทรดด้วย “สอน ict killzone”: ทางลัดสู่ความสำเร็จ! 🏆

การนำแนวคิด สอน ict killzone มาประยุกต์ใช้ในการเทรด จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์มากมาย ดังนี้:

  1. เพิ่มโอกาสในการทำกำไร: การเทรดในช่วงเวลาที่มี Volume และความผันผวนสูง ช่วยให้คุณสามารถจับจังหวะการเคลื่อนไหวของราคาที่สำคัญ และทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว
  2. ลดเวลาเฝ้าหน้าจอ: คุณไม่จำเป็นต้องนั่งเฝ้ากราฟตลอดทั้งวัน เพียงแค่โฟกัสการเทรดในช่วง Killzone ที่เหมาะสมกับตารางเวลาของคุณ
  3. เทรดอย่างมีประสิทธิภาพ: การเทรดในช่วงเวลาที่ตลาดมีสภาพคล่องสูง ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิด Slippage และทำให้การเข้าออกออเดอร์เป็นไปอย่างราบรื่น
  4. เข้าใจพฤติกรรมราคา: การศึกษา Killzone ช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมของนักลงทุนรายใหญ่ และสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาได้แม่นยำยิ่งขึ้น

แต่สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ: แม้ว่า สอน ict killzone จะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ แต่คุณยังคงต้องมี แผนการเทรดที่ชัดเจน กำหนด จุดเข้าซื้อ, จุดทำกำไร (Take Profit), และ จุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ทุกครั้งก่อนทำการเทรด รวมถึง การบริหารความเสี่ยง และ การควบคุมอารมณ์ ก็เป็นสิ่งที่ไม่สามารถละเลยได้

หากคุณยังไม่มีระบบเทรดที่แม่นยำ หรือต้องการเรียนรู้ ICT Concept อย่างเจาะลึก เพื่อให้เข้าใจถึงหลักการเบื้องหลัง สอน ict killzone อย่างแท้จริง ผมขอแนะนำให้คุณศึกษาเพิ่มเติมอย่างจริงจัง

บทสรุป: ปลดปล่อยศักยภาพการเทรดของคุณด้วย “สอน ict killzone”! 🔓

ถึงเพื่อนๆ นักเทรดทุกคนครับ ผมหวังว่าบทความนี้จะช่วยเปิดมุมมองใหม่ และเป็นแนวทางให้คุณสามารถนำ สอน ict killzone ไปปรับใช้ในการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การเทรดไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องที่ยากและเสียเวลาอีกต่อไป ด้วยการโฟกัสในช่วงเวลาที่เหมาะสม และเข้าใจถึงพฤติกรรมราคาในช่วงนั้น คุณก็สามารถ เทรดเพียง 1-2 ชั่วโมงต่อวัน และสร้าง ผลกำไร ที่น่าพอใจได้

อย่าลืมนะครับว่าความสำเร็จในการเทรดไม่ได้มาจากการนั่งเฝ้าหน้าจอทั้งวัน แต่มาจากการเทรดอย่างมีกลยุทธ์และมีประสิทธิภาพในช่วงเวลาที่เหมาะสม

หากคุณชื่นชอบเนื้อหาเกี่ยวกับการเทรดดีๆ แบบนี้ และอยากเรียนรู้เทคนิคการทำกำไรที่ง่ายและได้ผลจริง อย่าลืมกด ติดตาม ช่อง Youtube: ICT Trader ของผมไว้นะครับ! ผมจะนำเทคนิคและเคล็ดลับการเทรดดีๆ มาแบ่งปันให้ทุกคนอย่างต่อเนื่อง

แล้วเจอกันใหม่ในคลิปหน้าครับ! ขอให้ทุกคนเทรดได้อย่างมีกำไรและประสบความสำเร็จ! 😊

บทความที่น่าสนใจ
Scroll to Top